กล้วยไม่ไช่ของกล้วยๆ

prolific.pcl@gmail.com | 20-09-2556 | เปิดดู 988 | ความคิดเห็น 0

กล้วย(Banana) ในเมืองไทยเรามีมากมายหลายชนิด กล้วยที่จะกล่าวถึงในวันนี้คือกล้วยน้ำหว้าในบ้านเรากล้วยน้ำหว้าปลูกได้แทบทุกภาคในประเทศไทยวนมากหลายๆไร่ก็เป็นพืชเศรษฐกิจที่ทำรายได้เลี้ยงปากเลี้ยงท้องและก็เลี้ยงเรามาจนโตได้ทุกวันก็เพราะกล้วยเพราะตั้งแต่จำความได้แม่ก็เอาใบตองกล้วยห่อกล้วยและข้าวย่างไฟเลี้ยงผู้เขียนและน้องมาจนโตกล้วยเป็นอาหารเสริมประจำที่ไม่ต้องชื้อหาเพราะถ้าอยู่ตามต่างจังหวัดที่พื้นที่พอเหลือจากการปลูกบ้าน ก็จะปลูกกล้วยไว้ในสวนหลังบ้าน
ประโยชน์ของกล้วยมีมากมาย เช่นกล้วยห่ามๆ หรือกล้วยกึ่งดิบกึ่งสุกจะมีธาตุโปรแตทเชียมอยู่มากในกรณีที่คนท้องร่วงจะทำให้ร่างกายสูญเสียธาตุนี้ไปมากกล้วยน้ำหว้าสามารถให้สารธาตุแทนแก่ร่างกายได้ในระดับหนึ่งใบคนพื้นบ้านก็จะนำมาตากแดดพอหมาดๆและใช้ห่อขนม เช่นขนมเทียน แถบทางภาคอีสาน ก็จะนำมาห่อข้าวต้มหรือนำมาตากแดดให้แห้งตัดเป็นแผ่นเล็กๆกว้างประมาณสัก 2 นิ้วยาวตามความยาวของใบกล้วยที่พอจะตัดได้หรือยาวประมาณ 3 นิ้วเพื่อเก็บไว้มวลยาสูบ นอกจากนี้รากกล้วยก็ยังเป็นยาเย็นที่คนสมัยก่อนใช้กัน ต้นกล้วยไส้ในสุดชาวบ้านทางภาคอีสานเรียกว่า หยวกกล้วยจะนำมาหั่นเป็นแว่นๆ และคั้นหรือผสมกับหอมหรือผักกาดเขียวพื้นบ้านทำเป็นผักดองหยอดข้าวหมักลงไปสักหน่อยทิ้งไว้สัก 2-3 วันก็จะออกรสเปรี้ยวหน่อยๆ นำมาทานกับข้าวเหนียว หรือปลาย่าง เป็นเมนูรสแซบ ของคนทางภาคอีสานไปและยังได้ทานพืชสมุนไพรไปด้วยในตัว ส่วนผลกล้วยสุกก็ยังมีประโยชน์อีมากมายมี สารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายหลายอย่าง ในกรณีคนที่เป็นโรคกระเพาะกล้วยน้ำหว้าสุกยังมีคุณสมบัติเคลือบกระเพาะอาหารได้อีกด้วย

ถ้าประโยชน์ทางการค้า ก็จะนำกล้วยที่สุกแล้วมาทำกล้วยบวชชี กล้วยทอด กล้วยอบน้ำผึ้ง กล้วยฉาบ สารพัด กล้วย และคุณประโยชน์ของกล้วยยังไม่หมดแค่นี้ประโยชน์ใกล้ตัวที่เรามองข้ามอีกอย่างหนึ่งก็คือเปลือกกล้วยคนเราส่วนมากกินแล้วจะโยนทิ้งมองไม่เห็นคุณค่าของเปลือกกล้วยอย่างดีเอาไปรวมกันทำปุ๋ยหมัก แต่คุณประโยชน์ของเปลือกกล้วยมีมากกว่านั้น เช่น ในกรณีคุณผู้หญิงบางท่านส้นเท้าแตกทั้งๆที่อยู่ในเมืองไม่ได้ออกไปทำไร่ไถนา แต่อย่างไรกลับส้นเท้าแตก เหมือนภาษาอีสานว่าเดือนห้าดินแตกเขิบ(แตกระแหง) ขอโทษนะครับ ที่ใช้ภาษาต่างประเทศ เปลือกกล้วยที่เราทานแล้วอย่าโยนทิ้งไปเฉยๆสำหรับท่านที่ส้นเท้าแตก นำด้านในของเปลือกกล้วยถูบริเวณส้นเท้าที่แตก ทุกวันประมาณ 3-4 วัน ส้นเท้าที่แตกมองดูหน้าเกลียดจะเริ่มเรียบผิวที่แตกจะเริ่มหลุดร่อนออกไปเรื่อยๆทาไปเรื่อยจนหมดส้นเท้าสวยงามพอใจค่อยหยุดทา ห้ามใช้ทาหน้าเด็ดขาดประเดี๋ยวหน้าจะแตกระแหงแทนส้นเท้าครับ เห็นไหมล่ะครับว่ากล้วยไม่ใช่ของกล้วยๆอีกต่อไป เกร็ดความรู้เรื่องใช้กล้วยทาส้นเท้าแก้เท้าแตกนี้ คุณหมอตั๋ง เป็นผู้ให้ความรู้เป็นวิทยาทาน

ตนแลเป็นที่พึ่งแห่งตน

ความคิดเห็น

วันที่: Tue Nov 19 17:18:21 ICT 2024

All Comments: 0 Pages: 1/0