น้ำสกัดชีวภาพลูกยอ มีสรรพคุณทางยาที่หลากหลายและสามารถแก้อาการต่างๆ ดังนี้
- แก้อาเจียน เนื่องจากมีสารแอสเปรูโลโซด์ (asperruloside)
- แก้อาการท้องผูก ท้องอืด ท้องเฟ้อ ขับพยาธิตัวกลม พยาธิเส้นด้าย และขับเลือดหลักคลอด เนื่องจากมีสารแอนทราควินโนน (anthraquinone)
- ลดอาการอักเสบฆ่าแบคทีเรียบางชนิด และลดความดันเนื่องจากมีสารสโคโปเลติน (Scopoletin)
- ต่อต้านอนุมูลอิสระ ป้องกันมะเร็งเนื่องจากมีสารแดนนาแคนทาล (dannacanthal)
- ป้องกันเซลล์จากสารพิษ และฟื้นฟูเซลล์ที่เสื่อมให้กลับทำงานได้เป็นปกติ
ลูกยอที่มีในบ้านเรา เป็นสายพันธุ์จีนัส เป็นตระกูลเดียวกับสายพันธุ์ตาฮิตีที่มีขายทั่วโลก ถือเป็นพันธุ์เดียวกัน อาจมีความแตกต่างกันบ้าง เช่น ทุเรียนหมอนทองกับทุเรียนก้านยาว ไม่สามารถบอกได้ว่าของใครจะดีกว่ากัน ลูกยอมีประโยชน์ทางด้านคุณค่าของอาหารที่มีวิตามินซี วิตามินเอ และโพแทสเซียมสูง นอกจากนั้น ลูกยอยังมีสารต้านอนุมูลอิสระ ที่ช่วยชะลอการแก่ของเซลล์ และต้านมะเร็งได้
ลูกยอรักษาสารพัดโรคได้จริงหรือ
รายงานการวิจัยเรื่องลูกยอมีไม่มากนัก ที่มีการวิจัยมากที่สุดจะเป็นที่คณะแพทย์ในเกาะตาฮิตีเอง แต่การวิจัยเหล่านี้ยังไม่เป็นที่ยอมรับทางการแพทย์ ถ้าไปค้นในเว็บไซต์ จะมีรายงานเป็นรายบุคคลว่ากินแล้วสามารถลดความดันเลือดสูงได้ เพิ่มพลังงาน สดชื่น ลดการอักเสบ ช่วยรักษาหวัด ระงับปวด รักษามะเร็ง โรคเอดส์ ลดไขมันในเลือด รายงานเหล่านี้เป็นรายบุคคล จากข้อมูลแพทย์บางท่าน หรือนักโภชนาการ สิ่งเหล่านี้ไม่เป็นที่ยอมรับทางการแพทย์ เพราะยังไม่มีการวิจัยทดลองที่แน่นอนแต่อย่างใด แต่มีการลงเว็บไซต์ เพื่อประโยชน์ทางธุรกิจ เพราะเป็นเว็บไซต์ประกอบกับการขายผลิตภัณฑ์
งานวิจัยเท่าที่มี รายงานที่ตีพิมพ์อย่างแท้จริง เมื่อค้นในห้องสมุดแพทย์ และจาก Medline search มีเพียงประมาณ ๒๐รายงานทั่วโลกมี๓รายงานที่มีข้อมูลที่น่าสนใจดังนี้ ในลูกยอมีสาร polysaccharide มีผลต่อเซลล์ของมะเร็งคือ ต้านมะเร็ง Lewis lung carcinoma ได้จริง และยืดอายุของหนูที่เป็นมะเร็งนี้ได้จริง แต่ยังไม่มีการวิจัยในคน อาจมีผลป้องกันมะเร็งได้จากการที่มีสารต้านอนุมูลอิสระโดยดูการลด DMBA-DNA adduct formation และด้วยกลไกอื่นๆ อย่างไรก็ตามไม่มีรายงานในคนว่าผู้ที่กินลูกยอจะเป็นมะเร็งน้อยกว่าผู้ที่ไม่กิน หรือรักษามะเร็งได้ ซึ่งต่างจากกระเทียมที่มีรายงานทางระบาดวิทยาว่า ผู้ที่กินกระเทียมจะเป็นมะเร็งกระเพาะอาหาร หลอดอาหารและ ลำไส้ใหญ่น้อยกว่าผู้ที่ไม่กิน
ประโยชน์ทางอาหาร
คุณค่าทางโภชนาการ ใบยอ 100 กรัม ให้พลังงานต่อร่างกาย 73 กิโลแคลอรี ประกอบด้วยน้ำ 77.3 กรัม คาร์โบไฮเดรต10.5 กรัม โปรตีน5.0 กรัม ไขมัน2.2 กรัม กาก 4 กรัม แคลเซียม469 มิลลิกรัม เหล็ก1.4 มิลลิกรัม วิตามินเอ43333 IU วิตามินบีหนึ่ง 0.30 มิลลิกรัม วิตามินบีสอง 0.14 มิลลิกรัม ไนอาซีน 7.2 มิลลิกรัม วิตามินซี 3มิลลิกรัม
จากกระแสความนิยมการบริโภคผลิตภัณฑ์ของลูกยอในบ้านเรามีมากเหลือเกิน เกิดอะไรขึ้นกับสมุนไพรลูกยอไทย จะเห็นว่าลูกยอที่มีในบ้านเราเป็นจีนัส สปีชี่เดียวของตาฮีติ ที่มีขายทั่วโลก คือถือเป็นพันธุ์เดียวกัน อาจแตกต่างกันบ้างเช่นทุเรียน หมอนทองกับทุเรียนก้านยาว ยังไม่มีข้อมูลรายงานว่าของใครจะดีกว่ากัน ลูกยอ มีประโยชน์ ทางด้านคุณค่าของอาหารที่มี วิตามินซี วิตามิน A และ ธาตุโปตัสเซียมสูง นอกจากนั้น จะมีลักษณะเหมือนพืชผักผลไม้จำนวนมากเพราะมีสาร แอนตี้ออกซิแดนท์หรือสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งถือว่าช่วยชะลอการแก่ของเซลล์ และต้านมะเร็งได้ ซึ่งก็มีชัดเจนในห้องทดลองเท่านั้น งานวิจัยลูกยอมีไม่มากนัก ที่มีการวิจัยมากที่สุดเป็นที่คณะแพทย์ในเกาะตาฮีติ แต่การวิจัยเหล่านี้ยังไม่เป็นที่ยอมรับทางการแพทย์ชาติอื่น เพราะถือว่าอาจมีอคติได้เพราะเป็นการสนับสนุนธุรกิจของประเทศตนเอง ซึ่งคาดว่าการแพทย์ชาติอื่นจะยอมรับต่อเมื่อมีการออกแบบที่ดี และได้รับการตีพิมพ์ทางวารสารการแพทย์ที่เชื่อถือได้และมีคนทำการทดลองซ้ำและได้ผลตามที่ระบุจริง
|
|
|
|